ลิเวอร์พูล ต้องพบกับความผิดหวังในนัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ หลังพ่ายให้กับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-2 โดยแม้จะครองบอลได้ถึง 66% แต่พวกเขากลับยิงได้เพียง 7 ครั้ง น้อยกว่าคู่แข่งที่มีโอกาสถึง 17 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาในแดนกลางของทีม

          ก่อนเกมนี้ มาร์ติน คีโอว์น เคยวิเคราะห์ว่าผลการแข่งขันจะถูกตัดสินโดยกองกลางพลังม้าของนิวคาสเซิ่ลอย่าง โชเอลินตอน และ บรูโน่ กิมาไรส์ และสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เมื่อคู่มิดฟิลด์ของลิเวอร์พูล อย่าง ไรอัน กราเฟนเบิร์ค และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่สามารถคุมเกมได้เลย

          แกรี่ เนวิลล์ วิจารณ์แท็กติกของ อาร์เน่อ สล็อท ว่าไม่ได้ช่วยให้ทีมดีขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวในครึ่งหลังที่ส่ง เคอร์ติส โจนส์, ดาร์วิน นูนเญซ และ โคดี้ กัคโป ลงมา แต่กลับทำให้เกมของลิเวอร์พูลแย่ลงไปอีก "แดนกลางของพวกเขากระจัดกระจาย มีช่องโหว่เต็มไปหมด" เนวิลล์ กล่าว

          ช่วงท้ายเกม สล็อท พยายามแก้เกมอีกครั้งด้วยการส่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ เฟเดริโก้ เคียซา ลงสนาม และทั้งคู่ก็ช่วยกันทำประตูตีตื้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 94 แต่นั่นก็สายเกินไป ลิเวอร์พูลกลับมาไม่ทัน และต้องปล่อยให้ นิวคาสเซิ่ล ฉลองแชมป์คาราบาว คัพ ในค่ำคืนประวัติศาสตร์

[รู้รอบสนาม]

• นี่เป็นแชมป์รายการเมเจอร์แรกของ นิวคาสเซิ่ล ในรอบ 70 ปี หลังจากเคยคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งสุดท้ายในปี 1955
• อาร์เน่อ สล็อท พาทีมแพ้ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล