รายการแข่งขัน
กกท. ผนึกกำลังกรมราชทัณฑ์ มวยไทยสร้างโอกาส พัฒนาชีวิตผู้ต้องขังทั่วประเทศ
การกีฬาแห่งประเทศไทย จับมือกับกรมราชทัณฑ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งสำคัญ ภายใต้ชื่อโครงการ "มวยไทยฟอร์ออล" เพื่อนำกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และ Soft Power สำคัญของชาติ เข้าไปส่งเสริมพัฒนาผู้ต้องขังในทัณฑสถานทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างทักษะ และต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับมวยไทยภายหลังพ้นโทษ
พิธีลงนามความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้ จัดขึ้น ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. หัวหมาก โดยมี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท., และนายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า มวยไทยเป็นศาสตร์และศิลปะการต่อสู้ที่มีคุณค่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย การป้องกันตัว และที่สำคัญคือการสร้างอาชีพ "ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้และฝึกฝนมวยไทยอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้พวกเขาได้เป็นนักมวยอาชีพ หรือประกอบอาชีพเป็นครูมวย ผู้ฝึกสอน เมื่อพ้นโทษ ซึ่งเคยมีตัวอย่างความสำเร็จในกีฬามวยสากลมาแล้ว" ผศ.พิมล กล่าว
ด้าน นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังในทุกด้าน รวมถึงด้านกีฬา เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ "การนำมวยไทยเข้ามาฝึกอบรมในเรือนจำ จะเป็นการเสริมสร้างระเบียบวินัย ความอดทน และความมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญในการดำเนินชีวิตภายหลังพ้นโทษ" นางจิรภา กล่าวเสริม
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า โครงการ "มวยไทยฟอร์ออล" ในระยะแรกจะนำร่องใน 13 ทัณฑสถานทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมและความเหมาะสม โดย กกท. จะสนับสนุนด้านบุคลากรผู้ฝึกสอน สถานที่ อุปกรณ์ และหลักสูตรการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน รวมถึงหลักสูตรผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬามวยไทย ให้กับทั้งผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ "เราเชื่อมั่นว่ามวยไทยจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ต้องขังได้ และในอนาคต กกท. พร้อมที่จะขยายความร่วมมือไปยังกีฬาประเภทอื่นๆ อีกด้วย" ดร.ก้องศักด กล่าว
ในพิธีลงนาม ยังมีการแสดงคีตะมวยไทยชุด "อิฐเก่าเล่าตำนาน" จากผู้ต้องขังทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ซึ่งเป็นเรือนจำเฉพาะทางด้านกีฬา สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของผู้ต้องขังในการเรียนรู้และแสดงออกผ่านกีฬามวยไทยได้อย่างน่าประทับใจ ความร่วมมือในครั้งนี้มีระยะเวลา 3 ปี และคาดหวังว่าจะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขังทั่วประเทศอย่างยั่งยืน
[ เกร็ดมวย 7M ]
- ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ถือเป็นเรือนจำต้นแบบในการนำกีฬามาพัฒนาผู้ต้องขัง โดยเฉพาะกีฬามวยไทย ซึ่งมีการฝึกสอนอย่างเป็นระบบและมีผู้ต้องขังหลายรายที่สามารถพัฒนาฝีมือจนเป็นที่ยอมรับ และได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันต่างๆ ภายหลังพ้นโทษ ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของการนำ "ศาสตร์และศิลปะมวยไทย" มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคมและสร้างโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาสได้อย่างแท้จริง