รายการแข่งขัน
"ซุปเปอร์บอน" เปิดใจรับมือดรามาโซเชียล เผยภูมิคุ้มกันแชมป์โลก
ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ออกมาเปิดเผยถึงแนวทางการรับมือกับกระแสดราม่าจากแฟนกีฬาในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักกีฬาอาชีพในยุคปัจจุบันต้องเผชิญอยู่เสมอ โดยเจ้าตัวได้ถ่ายทอดทัศนคติและวิธีคิดที่น่าสนใจจากการสั่งสมประสบการณ์บนสังเวียนตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ซุปเปอร์บอน ในฐานะหนึ่งในนักชกไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดบนเวทีระดับโลกของ ONE Championship ควบคู่ไปกับการเป็นนักกีฬาที่ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงในโลกออนไลน์ ได้แบ่งปันมุมมองที่ช่วยให้เขาสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านั้นมาได้
"ผมว่าผมมีภูมิคุ้มกันจากการชกมวยมานานพอสมควรแล้วครับ" ซุปเปอร์บอน กล่าว "เมื่อก่อนเวลาเราแพ้ ก็จะมีคนมาว่าเราล้มมวยบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วการต่อสู้มันมีแค่แพ้กับชนะ ผมไม่เคยที่จะด้อยค่าตัวเองเลย ต่อให้ผมแพ้ ผมก็แพ้ให้กับคนที่เก่งที่สุด เราต้องรู้จักตัวเองว่าเราอยู่ในจุดไหนของกีฬา อย่าลดคุณค่าตัวเองเพียงเพราะเราไม่ได้เก่งที่สุดในโลก"
แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งชาวไทยยังได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาคนอื่น ๆ ที่อาจกำลังเผชิญกับสถานการณ์เดียวกันว่า "แฟนกีฬาแต่ละคนก็มีความคาดหวังในตัวนักกีฬาแตกต่างกันไป ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ถูกใจทุกคนได้ทั้งหมด สิ่งที่ผมอยากแนะนำคืออย่าไปใส่ใจกับทุกความคิดเห็น ให้เราโฟกัสกับการพัฒนาตัวเอง หาทางที่จะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เราต้องปกป้องความรู้สึกของตัวเองให้ดีที่สุด และการตอบโต้ที่ดีที่สุดคือการทำผลงานบนเวทีให้ดีที่สุดครับ"
แม้ว่า ซุปเปอร์บอน จะพลาดโอกาสในการคว้าแชมป์โลกสองกติกาจากการพ่ายแพ้ให้กับ ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ในศึก ONE 170 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเขายังคงครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวตเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
และในไฟต์ต่อไปที่แฟน ๆ ทั่วโลกต่างรอคอย ซุปเปอร์บอน จะต้องเผชิญหน้ากับ มาซาอากิ โนอิริ แชมป์โลกเฉพาะกาลชาวญี่ปุ่น เพื่อเดิมพันเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ที่ โนอิริ เพิ่งจะเอาชนะ ตะวันฉาย มาได้ในศึก ONE 172 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการต่อสู้เพื่อรวมแชมป์โลกในครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญอีกครั้งในเส้นทางอาชีพของ ซุปเปอร์บอน
[ เกร็ดมวย 7M ]
- การที่ ซุปเปอร์บอน เน้นย้ำถึงการ "ไม่ด้อยค่าตัวเอง" แม้ในวันที่พ่ายแพ้ ถือเป็นทัศนคติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาอาชีพ การยอมรับความพ่ายแพ้และเรียนรู้จากความผิดพลาด เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาและกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม