• 

  2 - 1

  
  บอร์นมัธ เอเอฟซี

  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  พรีเมียร์ลีก 2024-11-02
• 

  0 - 1

  
  บอร์นมัธ เอเอฟซี

  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  พรีเมียร์ลีก 2024-02-25
• 

  6 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ซิตี้

  บอร์นมัธ เอเอฟซี
  พรีเมียร์ลีก 2023-11-04
• 

  1 - 4

  
  บอร์นมัธ เอเอฟซี

  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  พรีเมียร์ลีก 2023-02-26
• 

  4 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ซิตี้

  บอร์นมัธ เอเอฟซี
  พรีเมียร์ลีก 2022-08-13
• 

  2 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ซิตี้

  บอร์นมัธ เอเอฟซี
  อีเอฟแอลคัพ 2020-09-25
• 

  2 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ซิตี้

  บอร์นมัธ เอเอฟซี
  พรีเมียร์ลีก 2020-07-16
• 

  1 - 3

  
  บอร์นมัธ เอเอฟซี

  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  พรีเมียร์ลีก 2019-08-25
• 

  0 - 1

  
  บอร์นมัธ เอเอฟซี

  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  พรีเมียร์ลีก 2019-03-02
• 

  3 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ซิตี้

  บอร์นมัธ เอเอฟซี
  พรีเมียร์ลีก 2018-12-01

ฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ รอบนี้ "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ เอเอฟซี ทีมจากพรีเมียร์ลีก จะเปิดสนาม วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อนร่วมลีก สถานการณ์ของเจ้าบ้านบอร์นมัธไม่ค่อยดีนัก ฟอร์มระยะหลังแผ่วลงไปและไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ พวกเขาต้องการชัยชนะเพื่อเรียกความมั่นใจและผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ฟอร์มจะดูดรอปลงไปบ้าง ไม่ชนะใครใน 2 เกมล่าสุด แต่ในรายการนี้พวกเขาก็หวังจะป้องกันแชมป์เก่า  และต้องการชัยชนะเพื่อรักษาโมเมนตัมที่ดีไว้

การเจอกัน

เกมล่าสุดที่ทั้งสองทีมพบกันในลีกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2024  บอร์นมัธ เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 2-1 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมสถิติการเจอกันก่อนหน้านั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือกว่ามาก โดยเอาชนะไปได้ถึง 9 จาก 10 ครั้งหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ และหากนับเฉพาะ 6 เกมหลังสุด บอร์นมัธ ชนะได้เพียงเกมล่าสุดเท่านั้น ส่วนอีก 5 เกมเป็นฝ่ายแพ้ทั้งหมด

อันโดนี่ อิราโอล่า กุนซือของบอร์นมัธ เกมนี้จะประสบปัญหาในการจัดทัพพอสมควร เมื่อจะไม่มี ดีน ฮุยเซน และ มิลอส เคอร์เคซ สองกองหลังที่ติดโทษแบน  นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นบาดเจ็บอย่าง เอเนส อูนาล, อดัม สมิธ, ฮูเลี่ยน อาเราโฮ่, มาร์กอส เซเนซี และ หลุยส์ ซินิสเตอร์รา คาดว่า อิราโอล่า

จะปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูอาจยังเป็น เคป้า อาร์ริซาบาลาก้า แผงหลังน่าจะปรับใช้ ลูอิส คุ้ก ยืนแบ็คขวา คู่เซ็นเตอร์เป็น อิลเลีย ซาบาร์นยี่ กับ เจมส์ ฮิลล์ แบ็คซ้ายอาจเป็น ฮูลิโอ เซซาร์ โซเลร์ บาร์เรโต้ แดนกลางใช้ ไทเลอร์ อดัมส์ คุมเกมร่วมกับ ไรอัน คริสตี้ แนวรุกวาง มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, จัสติน ไคลเวิร์ต และ อองตวน เซเมนโย่ สนับสนุนกองหน้าตัวเป้าอย่าง อีวานิลซอน

เปป กวาร์ดิโอลา กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งานผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บหลายราย ได้แก่ โรดริโก้ เอร์นานเดซ, จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, นาธาน อาเก้, ออสการ์ บ็อบบ์ และผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง แอแดร์ซง โมไรส์ คาดว่า เปป

จะมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน ผู้รักษาประตูจะเป็น สเตฟาน ออร์เตก้า แผงหลังใช้ ริโก้ ลูอิส ยืนแบ็คขวา คู่เซ็นเตอร์เป็น รูเบน ดิอาส กับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่ขยับเข้ามายืน ส่วนแบ็คซ้ายอาจเป็นโอกาสของ เซร์คิโอ โกเมซ แดนกลางใช้ มาเตโอ โควาชิซ ประสานงานกับ มาเตอุส นูเนส แนวรุกประกอบไปด้วย ฟิล โฟเดน, เควิน เดอ บรอยน์, เฌเรมี่ โดกู และมี อาลิง โฮลัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

ฟอร์มล่าสุด

บอร์นมัธ เอเอฟซี: อันดับที่ 10 (พรีเมียร์ลีก) เกมล่าสุด เปิดบ้านแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 ฟอร์ม 6 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3 ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว เสียประตูมา 6 เกมติดต่อกัน สถิติที่น่ากังวลคือเกมในบ้านก็ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกัน (แพ้ 3 เสมอ 1) และแพ้รวดใน 2 เกมเหย้าหลังสุด ฟอร์มโดยรวมอยู่ในช่วงขาลง ต้องการจุดเปลี่ยน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้: อันดับที่ 5 (พรีเมียร์ลีก) เกมล่าสุด เปิดบ้านเสมอ ไบรท์ตันฯ 2-2 ฟอร์ม 6 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 3 ไม่ชนะใครมา 2 เกมติดต่อกัน และเสียประตูมา 3 เกมติดต่อกัน สถิติเกมเยือนไม่ค่อยดีนัก แพ้ถึง 4 จาก 6 เกมเยือนหลังสุดในทุกรายการ ฟอร์มโดยรวมถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน มีความไม่แน่นอน แต่ในลีกยังชนะมา 3 เกมติดก่อนหน้าเกมล่าสุด

แนวโน้มเกม

บอร์นมัธ ต้องการชัยชนะเพื่อเรียกความมั่นใจและผ่านเข้ารอบต่อไปในบอลถ้วย แต่สภาพทีมมีปัญหาขาดผู้เล่นหลักในแนวรับหลายคน และฟอร์มช่วงหลังก็ไม่ดีนัก โดยเฉพาะเกมในบ้าน

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการแก้ตัวจากฟอร์มที่ไม่แน่นอนในช่วงหลัง และมุ่งมั่นที่จะไปต่อในเอฟเอคัพ แม้จะมีผู้เล่นบาดเจ็บ แต่ขุมกำลังที่เหลือยังดูแข็งแกร่งกว่า

เกมนี้คาดว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคุณภาพผู้เล่นสูงกว่า จะเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ตามสไตล์ ส่วน บอร์นมัธ คงเน้นเกมรับที่รัดกุมและรอโอกาสสวนกลับเร็วจากความเร็วของ อองตวน เซเมนโย่ และ จัสติน ไคลเวิร์ต แต่ด้วยปัญหาแนวรับของเจ้าบ้าน และความมุ่งมั่นของทีมเยือน เชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสบุกมาเก็บชัยชนะได้มากกว่า

สกอร์ที่คาด: บอร์นมัธ เอเอฟซี แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2

ฟันธง: ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้